[ข้อมูล] การจัดกิจกรรมทัศนศึกษา การศึกษาดูงาน และระเบียบการพานักเรียนไปนอกสถานศึกษา

student-field-tripกิจกรรมทัศนศึกษา เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน ที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรมให้กับโรงเรียนเพื่อจัดให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรง ได้เห็นและเผชิญกับบุคคล สถานที่ และสิ่งต่างๆ อันจะเป็นสื่อการเรียนที่ดีชนิดหนึ่ง ครูผู้สอนและผู้บริหารควรจะใช้การศึกษานอกสถานที่เพื่อส่งเสริมการเรียน เพราะการได้เห็นสภาพจริงจะช่วยสร้างประสบการณ์ได้มากกว่าการได้ยินและการบอกกล่าวและ นักเรียนจะได้นำเอาความรู้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ในการจัดทัศนศึกษานั้น ควรจะต้องมีการเตรียมงานอย่างมีระบบ  แบบแผน ทำเป็นขั้นตอนดังนี้

ก่อนเดินทางไปทัศนศึกษา ควรเตรียมการดังนี้
     1. ครูควรกำหนดวัตถุประสงค์ สถานที่ที่จะไปให้เหมาะกับเวลา สอดคล้องกับการเรียนและความรู้ของนักเรียน
     2. ออกจดหมายถึงผู้ปกครองแจ้งให้ทราบว่า ระหว่างเวลานั้นจะพานักเรียนไปที่ใด เวลาเท่าใด และกลับเมื่อใด

     3. แจ้งครูที่จะร่วมเดินทางและแจ้งให้นักเรียนทราบเกี่ยวกับ วัน เวลา สถานที่ สิ่งที่ควรศึกษา
     4. ครูควรไปสำรวจ และศึกษาสถานที่นั้นก่อน หรือนัดวิทยากรให้เรียบร้อย ก่อนจะพานักเรียนไปศึกษา
     5. ความปลอดภัยในการเดินทาง พาหนะ เส้นทางที่จะไป มีความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ที่รับประทานอาหาร การปฐมพยาบาล คู่มือการเดินทาง
     6. จัดทำงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละแห่ง
     7. วางระเบียบข้อบังคับ ความปลอดภัยในการเดินทาง และจัดทำคู่มือหรือสมุดบันทึกความรู้

ขณะศึกษาดูงาน ครูควรดำเนินการดังนี้
     1. ควบคุมการเดินทางโดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นเกณฑ์ โดยดูแลผู้ขับพาหนะให้อยู่ในสภาพที่ไม่เร็วเกินไป หากมีรถหลายคัน ถ้าคันใดหยุดให้หยุดเหมือนกันหมด
     2. รักษาเวลา การจอดหรือแวะระหว่างทางและตรวจสอบนักเรียนให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง ไม่หยุดนานหรือเร็วเกินไป
     3. ดูแลนักเรียนในการเดินทาง ไม่ให้ยืนที่บันได ไม่ยื่นแขน ขา ศีรษะออกนอกตัวรถ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้ขับรถ
     4. แนะนำนักเรียนดูแลกระเป๋าและเครื่องใช้ของนักเรียน เวลา ที่จอดรถหรือลงจากรถไปที่อื่น

การประเมินผล หลังจากทัศนศึกษาควรประเมินผล ดังนี้
     1. คุ้มค่าตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่
     2. เจตคติต่อการไปทัศนศึกษาเป็นอย่างไร
     3. นำมาใช้ได้หรือไม่
     4. หาข้อบกพร่อง และอุปสรรคมาปรับปรุงครั้งต่อไป
     5. ประเมินผลหลายวิธี เช่น ทดสอบ สอบถาม อภิปราย รายงานหน้าชั้น ส่งสมุดบันทึกกิจกรรม เป็นต้น

สำหรับนักเรียนต้องมีการเตรียมตัวไปทัศนศึกษา นักเรียนต้องประพฤติตัวให้เรียบร้อย เคารพสถานที่ ถ้าไปทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ หรือสวนพฤกษชาติ ครูควรขอแผนที่หรือข้อมูลอื่นมาศึกษาก่อนไปเยี่ยมชม และควรแจกข้อมูลให้นักเรียน เพื่อวางแผนล่วงหน้าได้ว่าต้องการจะไปดูอะไร ถึงแม้ว่าการไปทัศนศึกษาส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการทดลองและการใช้เครื่องมือต่างๆ แต่นักเรียนจะต้องให้ความสนใจที่จะเรียนรู้ ณ จุดศึกษาต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับความรู้ตามวัตถุประสงค์ของการไปทัศนศึกษา เรียนรู้ได้อย่างคุ้มค่ากับเวลาและการเดินทาง 

ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการพานักเรียนไปทัศนศึกษา คือ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. 2548 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
     โดยที่เห็นสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
     อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการจึงวางระเบียบไว้ดังต่อนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๙
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
     “นักเรียนและนักศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งกำลังรับการศึกษาในสถานศึกษา
     “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และให้หมายความรวมถึงสถานศึกษาที่อยู่ในกำกับดูแล หรืออยู่ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการด้วย
     “หัวหน้าสถานศึกษา” หมายความว่า ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการ อธิการบดี หรือหัวหน้าสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นทั้งของรัฐและเอกชนที่มีอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
     “การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา” หมายความว่า การที่ครู อาจารย์ หรือหัวหน้าสถานศึกษาพานักเรียนและนักศึกษาไปทำกิจกรรมการเรียนการสอนนอกสถานศึกษาตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งอาจไปเวลาเปิดทำการสอนหรือไม่ก็ได้ แต่ไม่รวมถึงการเดินทางไกลและการเข้าค่ายพักแรมของลูกเสือ ยุวกาชาด และเนตรนารี และการไปนอกสถานที่ตามคำสั่งในทางราชการ

ข้อ ๕ การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาจำแนกเป็น ๓ ประเภท คือ
     (๑)    การพาไปนอกสถานศึกษาไม่ค้างคืน
     (๒)    การพาไปนอกสถานศึกษาค้างคืน
     (๓)    การพาไปนอกราชอาณาจักร
ข้อ ๖ การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาทุกประเภทให้ปฏิบัติดังนี้
     (๑)    ต้องได้รับอนุญาตก่อน  โดยขออนุญาตตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบนี้
     (๒)    ให้หัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ควบคุม และจะต้องมีครูเป็นผู้ช่วยผู้ควบคุมดูแลในการเดินทาง  โดยครูหนึ่งคนต่อนักเรียนหรือนักศึกษาไม่เกิน ๓๐ คน ถ้านักเรียนและนักศึกษาเป็นหญิงไปด้วย ให้มีครูหญิงควบคุมไปด้วยตามเหมาะสม
     (๓)    ผู้ควบคุมและผู้ช่วยผู้ควบคุม ต้องดำเนินการให้นักเรียนและนักศึกษาอยู่ในระเบียบวินัยเพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย
     (๔)    ห้ามผู้ควบคุม ผู้ช่วยผู้ควบคุมเสพหรือชักชวนให้พนักงานขับรถหรือผู้ขับเรือ เสพสุราหรือของมึนเมาขณะเดินทาง
     (๕)    ให้หัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาเลือกเส้นทางที่จะเดินทาง เลือกยานพาหนะที่อยู่ในสภาพมั่นคง แข็งแรงในการเดินทาง รวมถึงให้พิจารณาเลือกพนักงานขับรถหรือผู้ขับเรือที่มีความรู้ ความชำนาญด้วย
     (๖)    ในการเดินทางให้พิจารณาขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำแนะนำหรือขอความร่วมมืออื่นๆ เท่าที่จำเป็น รวมถึงจัดให้มีป้ายข้อความแสดงให้เห็นว่ายานพาหนะนั้นบรรทุกนักเรียนและนักศึกษา
     (๗)    ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้พิจารณาและอนุญาตให้พานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาตามข้อ ๕ (๑) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือผู้ได้รับมอบหมายหรือ ผู้มีอำนาจเหนือสถานศึกษาขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งแล้วแต่กรณี เป็นผู้พิจารณาและอนุญาตตามข้อ ๕ (๒) และหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้พิจารณาและอนุญาตตามข้อ ๕ (๓)
ข้อ ๘ ให้ส่งคำขออนุญาตพร้อมโครงการที่จะไปนอกสถานศึกษา ไปให้ผู้มีอำนาจพิจารณาก่อนวันออกเดินทาง เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงออกเดินทางได้
ข้อ ๙ การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาให้เป็นความสมัครใจเพื่อไปทำกิจกรรมการเรียนการสอน หรือทัศนศึกษา มิใช่พาไปเพื่อทดสอบสมรรถภาพหรือจัดกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการวัดผลให้คะแนน
ข้อ ๑๐ เมื่อพานักเรียนและนักศึกษากลับจากการพาไปนอกสถานศึกษาแล้ว ให้รายงานให้ผู้สั่งอนุญาตทราบ
ข้อ ๑๑ ให้ถือว่าครู อาจารย์ หรือผู้ควบคุมนักเรียนและนักศึกษา ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการและให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้
ข้อ ๑๒ ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘
นายจาตุรนต์  ฉายแสง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ



Leave a Comment