ธุรกิจ Startup คืออะไร ประเภทของ ตัวอย่างธุรกิจ Startup เทรนด์ใหม่ ผู้ประกอบการหน้าใหม่

Startup คือ บริษัทที่เปิดใหม่จากคนไม่กี่คน ซึ่งที่ Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกา เป็นแหล่งรวมตัวของบริษัทด้านไอทีชั้นนำต่างๆ มากมาย ทั้งผู้ที่สนใจเปิดบริษัทใหม่ นักลงทุน จะรวมตัวกันอยู่ที่นี่ โดยบริษัทด้านไอทีชื่อดังหลายแห่ง เช่น Facebook , Instagram ก็เริ่มต้นจากการเป็น Startup มาก่อน (ความหมายในปัจจุบัน ยังรวมถึง ผู้ประกอบการใหม่ ที่ทำธุรกิจแล้วรวยปังๆ รวยเร็วแบบก้าวกระโดด โดยเป็นธุรกิจที่ตอบสนองการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน และเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือแอพลิเคชั่นใหม่ๆ)

Multiethnic People Starting Up a BusinessStartup หมายถึง ธุรกิจที่วางแผนมาเพื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดจากคนเพียงไม่กี่คน โดยสินค้าที่ทำออกมา ก็คือ Software หรือ แอปพลิเคชัน ซึ่งการลงทุนไม่สูง หากมีการวางแผนธุรกิจที่ดี มีไอเดีย สามารถสร้างผลงานให้คนใช้ได้ทั่วโลก ก็จะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่การจะทำให้ธุรกิจให้ออกมาดีก็ต้องใช้เงินทุน เงินทุนที่ว่านี้ ก็มาจาก นักลงทุน โดยธุรกิจ Startup จะมีประเพณีการหาเงินทุนด้วยการขอเงินจากนักลงทุน ซึ่งนักลงทุนจะมีการได้สิทธิ์ในการแบ่งปันรายได้ หรือเป็นหุ้นส่วนในบริษัทไปด้วย โดยนักลงทุนจะมี 2 ประเภทคือ VC กับ Angel investor

Venture Capital หรือเรียกย่อๆ ว่า VC ซึ่งก็คือ ธุรกิจเงินร่วมลงทุน โดยลงทุนเหมือนเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Startup มีการลงทุนระยะยาวประมาณ 3-5 ปี ซึ่งมักเป็นนักลงทุนในรูปแบบขององค์กร การลงทุนของ VC จึงมักจะมีมูลค่าที่สูงกว่า Angel investor ซึ่งมักมองภาพของธุรกิจในระดับที่ใหญ่และนอกจากสนับสนุนทางด้านการเงินแล้ว VC ยังให้คำปรึกษา ช่วยชี้แนวทางในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจที่ได้รับเงินร่วมลงทุน สามารถที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

Angel Investor มักเป็นนักลงทุนรายอิสระหรือกลุ่มนักลงทุนอิสระที่ใช้เงินส่วนตัวในการลงทุนในธุรกิจ จึงเสนอเงินที่น้อยกว่า VC เหมาะกับธุรกิจที่ลงทุนไม่สูงมาก โดย Angel investor มักเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือเจ้าของธุรกิจส่วนตัวที่เกษียณตัวเองแล้วแต่มีประสบการณ์ในการเริ่มต้นและขยายธุรกิจ ซึ่งจะมีการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารธุรกิจแตงต่างกันไป และ มักจะได้คำปรึกษาและความช่วยเหลือจากนักลงทุนเหล่านี้อย่างต่อเนื่องหรือเมื่อต้องการ

ประเภทของ ธุรกิจ Startup
งาน Startup Thailand 2016 ที่รัฐบาลจัดขึ้น (28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559) ช่วยจุดประกายให้ผู้ประกอบการที่กำลังหาแนวทางธุรกิจให้มีการพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืนจากองค์ความรู้และแรงบันดาลใจภายในงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นการเร่งการเติบโตและเพิ่มโอกาสของสตาร์ทอัพไทย ส่งผลให้เกิดแรงกระตุ้นครั้งสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งจะมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน จำนวนกว่า 200 บูธ และพร้อมหน่วยงานสนับสนุนสตาร์ทอัพจากต่างประเทศจำนวนกว่า 10 บูธ โดยมีการแบ่งโซนการแสดงนิทรรศการสตาร์ทอัพ เป็น 8 ประเภท ประกอบด้วย

1. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตรและอาหาร (AgriTech & FoodTech)
2. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม 4.0 และอุตสาหกรรมสะอาด (Industry 4.0 & CleanTech)
3. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการศึกษาและการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ (EdTech & GovTech)
4. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropertyTech)
5. ธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งด้านบริการส่วนบุคคล การท่องเที่ยว และความบันเทิง
(Lifestyle : Personal service, TravelTech & Entertainment)
6. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเข้าถึงสินค้า (E-Commerce & Logistics)
7. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงิน (FinTech) และด้านการให้บริการสำหรับธุรกิจ (Service Enhancement)
8. ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านสุขภาพ (HealthTech)

ตัวอย่างธุรกิจ Startup ในบูทงาน Startup Thailand 2016 ที่น่าสนใจ >> [https://www.blognone.com/node/80456]
ภาพประกอบจาก : http://digimantralabs.com/blog/wp-content/uploads/2015/12/startup.jpg



Leave a Comment