ตลาดการเลี้ยงหอยขม การแปรรูปหอยขม หอยขมต้มสุก ซอสหอยขม ทดแทนซอสนางรม คอเลสเทอรอลต่ำ โปรตีนสูง

หอยขม (pond snail) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sinotaia ingallsiana จัดอยู่ในวงศ์ Vivipara และในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 6 ชนิด แต่ที่พบเห็นในปัจจุบันมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ V.doliaris, V.bengalensis, และ V.martensi เป็นหอยน้ำจืดที่นิยมนำมารับประทาน เนื่องจากหาง่าย มีเนื้อมาก รับประทานได้ทั้งตัว และเนื้อหอยมีความอร่อย นิยมนำมาประกอบอาหารในหลายเมนู อาทิ แกงอ่อมหอยขม ผัดเผ็ดหอยขม รวมถึงนิยมต้มสุกสำหรับจิ้มรับประทานคู่กับน้ำพริก และเครื่องเคียงส้มตำ

ปัจจุบัน ยังมีการแปรรูปในรูปแบบต่างๆ เช่น

1. นัมเบอร์วันฟาร์ม จ.ปทุมธานี มีการแปรรูปโดยการต้มสุกแกะเนื้อหอย เพื่อส่งไปยังร้านอาหารต่างๆ ราคาเริ่มที่ 85-95 บาท/กก.(ส่ง) ราคาปลีก 110-120 บาท/กก.ขึ้นอยู่ตามฤดูกาล โดยทางฟาร์มจะมีการแพ็กบรรจุสุญญากาศแบบ “ฟรีซ” เก็บในตู้แช่เพื่อรอออเดอร์จากลูกค้าสั่งได้ตลอด ล่าสุดยังมีการแปรรูป “อบแห้ง” สามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิปกตินานกว่า 60 วัน หรืออยู่ได้นานถึง 1 ปีหากเก็บ/แช่ไว้ในตู้เย็น เวลาจะนำมาปรุงก็เพียงแช่ในน้ำร้อนไว้ก่อนซึ่งจะได้เนื้อหอยที่อ่อนนุ่มดังเดิม เพื่อสำหรับพร้อมปรุงอาหารได้แล้ว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนอยู่ในต่างประเทศหรือช่วงที่ขาดแคลนหอยเป็นๆ ตามตลาดหาซื้อไม่ได้ก็ใช้แทน แต่ว่าด้านราคาก็อาจจะแพงกว่าอยู่สักหน่อย คือ 1 ซอง/ขนาดบรรจุ 100 กรัม จำหน่ายปลีก 100 บาท หรือว่าถ้าสั่งตั้งแต่ 100 ซองขึ้นไปก็ลดเหลือ 70 บาท/ซองได้ เพราะการผลิตใช้เนื้อหอยสด 1 กก. จะได้หอยอบแห้งแล้วออกมาเพียง 2-3 ขีดเท่านั้น รวมถึงมีการจำหน่ายหอยเป็น (มีชีวิต) เพื่อทำพันธุ์ปล่อยเลี้ยง ราคาเฉลี่ยทั้งปีไม่ต่ำกว่า 50 บาท/กก.

หอยขมต้มสุกแล้วนำมาแกะเนื้อ 

เนื้อหอยขมอบแห้ง ( ปลีกขีดละ 100 บาท)

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “นัมเบอร์วันฟาร์ม” เลขที่ 39/1 หมู่ 5 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12160 โทร. 081-904-1829 เพจ : หอยขมนัมเบอร์วันฯ

2. นายณัฐชรัฐ แพกุล นักวิจัยและอาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า หอยขมเป็นสัตว์น้ำจืดที่พบได้ง่ายในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถนำมาประกอบอาหารได้ มีราคาถูก มีปริมาณคอเรสเตอรอลต่ำ เพาะเลี้ยงได้ง่ายเจริญเติบโตไว ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเมื่อเทียบกับหอยนางรมที่มีราคาสูง มีปริมาณคอเรสเตอรอลสูง เพาะเลี้ยงได้ยาก ไม่ทนต่อสภาพน้ำทะเลเมื่อมีอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง และเป็นสัตว์น้ำที่มีการสะสมของสารพิษกลุ่มโลหะหนักที่ปนเปื้อนในน้ำทะเล จึงอาจมีผลอันตรายต่อสุขภาพหากมีการปริโภคเป็นเป็นเวลานาน

นายณัฐชรัฐ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ซอยหอยขมมีโปรตีนสูงกว่าซอสหอยนางรม 12% มีปริมาณคอเลสเตอรอลเพียง 50 มิลลิกรัม/100 กรัม ซึ่งต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ซอสหอยนางรมตามท้องตลาดมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูงถึง 550 มิลลิกรัม / 100 กรัม ผลิตภัณฑ์ซอสหอยขมมีราคาต้นทุนต่ำกว่าซอสหอยนางรมตามท้องตลาด 60% นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ซอสหอยขมสามารถนำไปใช้กับวัตถุดิบอาหารได้หลายประเภท เช่น ข้าว ผัก เนื้อสัตว์ เป็นต้น และสามารถใช้วิธีการประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัด ตุ๋น ต้ม นึ่ง ย่าง หมัก เป็นต้น สามารถนำไปผลิตในรูปแบบของอุสาหกรรมได้ง่ายและเร็วเนื่องจากหอยขมเป็นสัตว์น้ำโตไวและทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

กระบวนการแปรรูปหอยขมเป็นซอสหอยขม เริ่มจากนำเนื้อหอยขม 3 กก. มาแกะเอาเฉพาะเนื้อล้วนๆ จะได้ 1 กก. ล้างทำความสะอาด นำมาบด จากนั้นนำมาเคี่ยวกับส่วนผสมต่างๆด้วยไฟอ่อน กระทั่งเนื้อหอยเริ่มเป็นเนื้อเดียวกัน มีความหนืด แล้วนำมากรองจะได้ซอสหอยขมเข้มข้น สีธรรมชาติน้ำตาลอ่อน 3,150 กรัม บรรจุขวดละ 350 กรัม ได้ 9 ขวด จากหอยขมทั้งเปลือกราคา 45-60 บาทต่อ กก. หลังนำมาแปรรูปทำซอสหอยขมขายได้ 105 บาท

ผลงานซอสหอยขมได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จนคว้ารางวัลเหรียญเงิน และรางวัล Special Prize จาก Toronto International Society of Innovation & Advanced Skills (TISIAS) ประเทศแคนาดา จากการประกวดในงาน “11th International Warsaw Invention Show” (IWIS 2017) ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ เมื่อวันที่ 9-11 ตุลาคม 2560 ซึ่งตอนนี้ซอสหอยขมอยู่ในขั้นการจดสิทธิบัตร

เกษตรกรเพาะเลี้ยงหอยขม สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ นายณัฐชรัฐ แพกุล โทร.089-2521300

เรียบเรียงและภาพประกอบจาก
1. http://kaset.nakaintermedia.com/15-03-2018.html
2. https://www.thairath.co.th/content/1111007



Leave a Comment