ทำไม ผอ. ชอบทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา เหตุผลที่ต้องทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา ข้อดีข้อเสียของผ้าป่าเพื่อการศึกษา

newdirector-storyโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบทำบุญ และไม่มีปัญหาใดๆ กับการทำบุญด้วยการทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา เพราะผมเกี่ยวข้องกับเรื่องผ้าป่าเพื่อการศึกษามาตั้งแต่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ซึ่งกรณีนี้ผมเต็มใจหาและเต็มใจช่วยอย่างเต็มที่ เพราะนั่นคือสถาบันที่เรามีความผูกพัน และเราทำเพื่อตอบแทนบุญคุณสถานศึกษา ต้องการให้สถานศึกษาที่เราเล่าเรียนมามีการพัฒนามากขึ้นๆ โดยเฉพาะถ้าผมเชื่อมั่นผู้บริหารท่านใดมาก ผมก็จะหาเงินมาให้ท่านมากๆ ให้ท่านพัฒนาโรงเรียนเก่าของเราให้เจริญยิ่งขึ้น … และวันทอดผ้าป่า ก็เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้เจอเพื่อนเก่าที่เรียนด้วยกันมา อีกด้วย

ถ้าผู้ทำผ้าป่ารู้จักกับผม เป็นเพื่อนของผม เป็นญาติของผม ทำงานที่เดียวกับผม เรารู้จักกันก็ช่วยกันทำบุญตามกำลังศรัทธา ประเภทเพื่อนขอมาเราก็เต็มใจช่วย แต่ประเภทไม่รู้จักกันแล้วขอความอนุเคราะห์กันมานี่ มันเข้าข่ายเรี่ยไรในสถานศึกษาหรือเปล่านะ แต่เอาเถอะน่าถือว่าทำบุญ อย่าคิดมาก คนขอผ้าป่าเขาอยากให้เราได้ทำบุญให้ทาน

ผมเคยเป็นคนหาผ้าป่าเพื่อการศึกษา มอบให้สถานศึกษาที่ผมทำงานและเกี่ยวข้องอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งผมจะมีของแลกเปลี่ยนเช่น สลักชื่อในหินแกรนิตสร้างหอพระพุทธรูป ขายเสื้อยืดสกรีนมอบรายได้ให้โรงเรียน ขาย E-book นำรายได้มอบโรงเรียน เป็นต้น ผมพบว่า มีคนจำนวนหนึ่งมอบเงินให้ผมเพราะต้องการช่วยผม ทำบุญร่วมกันกับผม และเชื่อมั่นในตัวผมว่าจะทำให้เขาได้บุญจากการร่วมทำบุญกับผม แต่อีกจำนวนหนึ่ง ผมก็ยัดเยียดให้เขาช่วย อย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งในประเด็นหลังนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า มันบั่นทอนกำลังบุญของตัวเรา ซึ่งผมไม่ควรทำเช่นนั้นอีกเลย

เมื่อผมมาเป็นผู้บริหารสถานศึกษา สัปดาห์แรกที่เข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหาร บุคลากรของโรงเรียนเสนอว่าโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่มีเงิน จึงควรทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา เพื่อหาเงินมาพัฒนาโรงเรียน แต่จากประสบการณ์ที่ประจักษ์สายตาผมในช่วงที่ผ่านมา คือ การทำผ้าป่าเพื่อการศึกษาแต่ละครั้ง มันเหนื่อย บางทีได้ไม่คุ้มเหนื่อย และหนักสุดคือ ทำให้เกิดรอยปริเล็กๆของคนในองค์กร แต่ทำไมถึงมีคนอยากทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา เขาต้องการพัฒนาโรงเรียนหรือมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ แต่เอาเถอะ หากทุกคนตกลงปลงใจกันที่จะทำอย่างพร้อมเพรียงกัน ผมก็ยินดีสนับสนุนให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาของเรา (ผอ. เป็น “ผู้อำนวย”การ อยู่แล้ว)

นอกจากนี้ สถานศึกษาของผมได้รับซองผ้าป่าเยอะมาก ทั้งจากโรงเรียนในจังหวัดเดียวกัน และต่างจังหวัดที่ไม่รู้จักกันเลย มากจนผมไม่สามารถจะช่วยได้ทั้งหมด เพราะลำพังตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว และการรบกวนเด็กรบกวนบุคลากรที่มากเกินความพอดีคือสิ่งที่ผู้บริหารไม่ควรทำ ก็เลยเกิดคำถามขึ้นในใจผมว่า “ทำไม ผอ. ชอบทำผ้าป่าเพื่อการศึกษากันนัก หรือมันเป็นหลักสูตรที่ ผอ.ทุกคนต้องทำ หรือคิดอะไรไม่ออก หาเงินไม่ได้ ก็ทำผ้าป่าไว้ก่อน ง่ายดี หรือมีความตั้งใจดีจริงสร้างกิจกรรมให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษา และการทำผ้าป่าแต่ละครั้งมาจากความต้องการของใคร ผอ. หรือครู หรือคนในชุมชนที่ต้องการจะให้ทำ”

หากมองในแง่ดี การทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา เป็นการระดมทรัพยากร (ระดมเงิน) จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา ให้มาช่วยสถานศึกษา เพื่อให้มีงบประมาณมาใช้ในการพัฒนาโรงเรียน เช่น ทำผ้าป่าเสร็จก็อาจจะได้รั้วโรงเรียน ได้ห้องน้ำใหม่ ได้ห้องสมุดใหม่ ได้โรงอาหารใหม่ ได้แหล่งเรียนรู้ใหม่ ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ โรงเรียนก็พัฒนาขึ้น อย่างเป็นรูปธรรม เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ผู้อำนวยการและคณะครูก็มีความภูมิใจได้หน้าได้ตา ดีใจได้เงินมาเคลียร์หนี้ตรงนั้นตรงนี้ของโรงเรียน โรงเรียนมีสภาพคล่องดีขึ้น คนช่วยเงินก็ได้บุญ อิ่มเอมใจ และภูมิใจว่ามีส่วนช่วยพัฒนาสถานศึกษาของตนเอง

โจทย์ของการทำผ้าป่าเพื่อการศึกษาคือ ทำอย่างไรจะได้เงินผ้าป่าเยอะ เพราะถ้าได้เงินเยอะก็คุ้มค่ากับความเหน็ดเหนื่อย และแสดงว่าผู้ทำมีบารมีเยอะ ผู้ทำจึงต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ เช่น แจกครุ แจกต้นผ้าป่า แจกวัตถุมงคล กำหนดอัตราครูหนึ่งคนต้องได้เท่านั้น เท่านี้ เช่น ครูหนึ่งคนต้องได้หนึ่งหมื่น (คนไม่ให้ ไม่ได้ไม่ถึง ทำอะไรเขาได้ไหม ก็ไม่ได้) ฯลฯ ผมมองว่าจุดนี้คือปัญหา เพราะถ้าบุญสร้างจากความไม่เต็มใจ ความลำบากใจของคนมากๆ (เช่น กะเกณฑ์ครูต้องเท่านั้นเท่านี้) ผู้ทำจะได้บาปมากกว่าบุญ นี่ไม่รวมถึง การทำผ้าป่าเป็นช่องทางรวย ช่องทางหาเงินของคนบางจำพวก คือ ระดมเงินแล้วมุบมิบ โรงเรียนครึ่งหนึ่งคนหาครึ่งหนึ่ง แถมบางครั้งทำแล้วโยนขี้ให้ ผอ.เป็นคนเลวโดยไม่รู้เรื่องไปเลยก็มี

การใช้เงินผ้าป่าเพื่อการศึกษา เป็นอย่างไร เงินประเภทนี้ จะถือว่าเป็นเงินรายได้สถานศึกษา (ออกใบเสร็จให้รายคนที่บริจาค หรือ ออกใบเสร็จให้องค์กร/ สมาคม ที่บริจาค) หรือ ในทางปฏิบัติ ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ออกใบเสร็จและไม่ได้นำเข้าบัญชีเงินรายได้สถานศึกษา ก็อาจจัดเก็บไว้ในลักษณะเป็นเงินเฉพาะนอกระบบ เช่น บัญชีเงินผ้าป่าเพื่อการศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาและประโยชน์ต่อผู้เรียนหรือแผนงานโครงการพิเศษบางอย่างตามวัตถุประสงค์ ใช้ได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ทุกอย่างถูกต้องหมด แต่วัสดุต่างๆ ที่ใช้ดำเนินการตามแผนงานโครงการนั้นๆ ต้องไปเอาจากร้านที่มีเครือข่ายใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจตัดสินใจใช้เงิน ได้เปอร์เซ็นต์นั่นนี่ ความข้อนี้เป็นเสียงสะท้อนจากครูหลายๆ คนที่อ้างเพื่อสนับสนุนการไม่ร่วมทำบุญผ้าป่าเพื่อการศึกษาในโรงเรียนของตนเอง ไม่รู้เท็จจริงประการใด (ขึ้นกับว่า ผู้มองจะมองที่ผลลัพธ์ หรือกระบวนการ ถ้ามองที่ผลลัพธ์ ก็จะดูว่า มีรั้ว มีกำแพงโรงเรียนเกิดขึ้นไหม ถ้ามีก็ถือว่าโอเคแล้ว โดยไม่สนใจว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่ถ้ามองที่กระบวนการ ก็จะดูว่า ผอ.ทำงานถูกต้องไหม มีซิกแซกเอื้อประโยชน์ให้ใครไหม แบบนี้ถึงมีของให้เห็น แต่กระบวนการไม่ชอบมาพากล ผู้มองก็ไม่โอเค)

ถ้าไม่ทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา จะได้ไหม … ก็ได้ แต่โรงเรียนจะไม่มีงบประมาณในการก่องานใหม่ เพราะในความเป็นจริง ไม่มีเงินก็ไม่มีเงินใช้หนี้ และสร้างงานใหม่ๆ ไม่ได้ หนักเข้าหน่อย ชุมชนก็อาจจะมองว่า ผอ.คนนี้มาอยู่แล้ว ไม่เห็นพัฒนาอะไรเลย ไม่มีอนุสรณ์อะไรไว้ให้จดจำเลย เป็นต้น

แล้วที่สุดจะเอาอย่างไร ทำก็มีข้อครหา ไม่ทำก็มีเสียงซุบซิบนินทา การทำผ้าป่าเป็นเพียงวิธีเดียว หรือวิธีที่ดีที่สุดแล้วใช่ไหมในการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาสถานศึกษา ไม่มีวิธีการอื่นอีกแล้วใช่ไหม ผอ.ทุกคน ต้องทำผ้าป่าเพื่อการศึกษาใช่ไหม คำตอบของคำถามเหล่านี้ จะเป็นตัวตัดสินว่า ท่านผู้บริหารท่านนั้นจะทำหรือไม่ทำผ้าป่าเพื่อการศึกษา

สำหรับผม หากการทำผ้าป่าเพื่อการศึกษาเป็นกิจกรรมที่จะสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ศิษย์เก่า และผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา ในการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาสถานศึกษา ทำให้เขาได้กลับมาเยี่ยมสถานศึกษา ได้มาพบปะเพื่อนฝูงสมัยที่เป็นนักเรียน ช่วยสร้างความเข้มแข็งและเติบโตให้กับสถานศึกษาแล้วไซร้ ผมก็ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งหรือจุดเริ่มต้นสำหรับการทำผ้าป่าเพื่อการศึกษาในสถานศึกษาของตนเองครับ และแม้ไม่มีผ้าป่าเพื่อการศึกษา แต่ถ้าใครอยากมอบเงินให้โรงเรียน ทางโรงเรียนยินดีรับตลอดเวลา พร้อมจะออกใบเสร็จรับเงินให้ท่าน ซึ่งท่านสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สองเท่าของเงินที่บริจาค และทุกบาทนำเข้าเงินรายได้สถานศึกษาและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของท่าน ครับ



Leave a Comment