เทคนิคพิชิตข้อสอบ IELTS แบบ Academic Module [IELTS Listening, Reading, Writing, Speaking Tips]

IELTS (แบบ Academic Module) เป็นการสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย 4 ทักษะ เรียงตามลำดับการสอบ คือ Listening, Reading, Writing, และ Speaking ลักษณะคะแนน เริ่มจาก 0.0 – 9.0 มีคะแนนครึ่ง band คือ .5 ได้

ielts
ข้อสอบ IELTS Listening
ระยะเวลาสอบ 30 นาที มีทั้งการฟังแบบในชีวิตประจำวัน (2 เรื่อง) และเชิงวิชาการ (อีก 2 เรื่อง) โดยข้อสอบเริ่มจากง่ายไปยาก เช่น บทสนทนาแรก เป็นการพูดโทรศัพท์ บทสนทนาที่สองเป็นการสั่งอาหาร ไปจนถึงท้ายๆ เป็นการบรรยายสั้นๆ ในห้องเรียน หรือการปรึกษางานกลุ่มระหว่างนักเรียน คำถาม มีได้ตั้งแต่ ถามเบอร์โทรศัพท์ เลขที่บ้าน ชื่อถนน เมนูอาหารโดยเป็นการฟังไปด้วยตอบไปด้วย [ไม่ใช่ฟังทั้งหมดแล้วมาตอบแบบ TOEFL] คำตอบ เป็นแบบเขียนตอบทั้งหมด อาจจะมีเติมคำในรูปภาพหรือตาราง เติมคำในประโยค เรียงลำดับ หรือแบบปรนัยด้วย ข้อสอบ มีจำนวน 40 ข้อ

Tips สำหรับ Listening
1. ฝึกทำข้อสอบโดยการจับเวลา
2. เวลาเขียนตอบ ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด เนื่องจากคำบางคำ เช่น Lakeview Street อาจจะเขียนว่า Lake View Street ได้ด้วย ซึ่งเราไม่มีวันรู้ว่าเขียนแบบไหนคือคำตอบที่ถูกต้อง ดังนั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะทำให้เราไม่ได้คะแนนทั้งๆ ที่รู้ว่าคำตอบคืออะไร ดังนั้น เขียนตัวใหญ่ให้หมดจะดีที่สุด
3. เขียนคำตอบลงในกระดาษคำถามก่อน หลังจากฟังจบ จะมีเวลาให้กรอกคำตอบลงในกระดาษคำตอบ 10 นาที

ข้อสอบ IELTS Reading
ระยะเวลาสอบ 60 นาที เป็นข้อสอบที่มีทั้งบทความที่เป็นข่าวและบทความเชิงวิชาการ รวมทั้งหมด 3 – 4 เรื่อง/บทความ ข้อสอบทั้งหมดมี 40 ข้อ ลักษณะคำถามคำตอบ เป็นแบบเขียนตอบ เช่น เติมคำในประโยค Matching True/False/Not Given เรียงลำดับ หรือแบบปรนัยด้วย

Tips สำหรับ Reading
1. ฝึกทำข้อสอบโดยการจับเวลา
2. เวลาทำข้อสอบ ให้อ่านบทความแบบ Skim/Scan ก่อนหนึ่งรอบ เพื่อดูคร่าวๆ ว่าเนื้อหาสาระมีอะไรบ้าง แล้วไปอ่านคำถาม จะได้กลับมาหาคำตอบได้ถูกจุด เพราะคำถามของ IELTS จะไม่เรียงกันตามเนื้อหาอย่าง TOEFL (แต่ส่วนใหญ่ก็เรียงตามลำดับเนื้อหา)
3. ข้อไหนทำไม่ได้ ข้ามไปก่อน กลับมาเก็บตกทีหลัง อย่าจมอยู่กับข้อใดข้อหนึ่งนานเกินไป เพราะจะทำข้อสอบไม่ทัน

ข้อสอบ IELTS Writing
มี 2 ข้อ ให้เวลารวมกัน 60 นาที
Task 1 จะเป็นการเขียน response กับข้อมูลที่โจทย์ให้มา ซึ่งจะเป็น Diagram พวกกราฟแท่ง กราฟเส้น หรือวงกลม (pie chart) ต้องเขียนตอบไม่น้อยกว่า 150 คำ ซึ่งส่วนนี้ไม่ควรใช้เวลาเกิน 20 นาที
Task 2 เป็นการเขียน response ในหัวข้อทั่วไป ซึ่งเปิดกว้างให้เราแสดงความคิดเห็น ของตัวเอง อาจจะเป็นการเสนอวิธีการแก้ปัญหา การเปรียบเทียบทางเลือก หรือ การโต้แย้งในประเด็นต่างๆ ต้องเขียนตอบไม่น้อยกว่า 250 คำ จึงไม่ควรใช้เวลามากกว่า 40 นาที

Tips สำหรับ Writing
1. ใช้ tense ธรรมดาสามัญ เช่นเดียวกัน Writing ของ TOEFL (Present Simple tense, Past Simple tense และ Present Perfect tense) รวมทั้งศึกษาและฝึกฝนการใช้ transition words, compare and contrast words ให้คล่อง
2. ต้องบริหารจัดการเวลาได้เป็นอย่างดี ไม่ควรเสียเวลาอยู่กับ Task1นานเกินกว่า 20 นาที เพราะจะทำ Task 2 ไม่ทัน ขอแนะนำให้ทำ Task 2 ก่อน โดยใช้เวลา 5 นาทีแรก เขียนไอเดียที่มีคร่าวๆ และ 30 นาทีในการเขียน response เหลืออีก 5 นาทีสุดท้ายไว้ตรวจคำผิด เนื่องจาก Task 2 มีคะแนนมากกว่า Task 1 ถ้าเขียนส่วนนี้ให้เสร็จสมบูรณ์จะโดนหักคะแนนน้อยกว่า
3. เขียนตอบแบบบรรทัดเว้นบรรทัด เวลาเขียนผิดไม่ต้องลบ (เสียเวลามากแถมคนข้างๆ จะโกรธด้วยเพราะเวลาลบ โต๊ะมันสั่น) ขีดฆ่าแล้วแก้ไว้ด้านบนแทนจะทำให้ข้อสอบดูโปร่ง อ่านง่าย
4. สำหรับคนเก่งขั้นเทพ เขียนเกินกว่า Word Limit ได้ แต่ไม่ควรเกินมามาก เช่น กำหนด 150 คำ ไม่ควรเขียนเกิน 170 คำ
5. วิธีนับจำนวนคำแบบคร่าวๆ ถ้าไม่เหลือเวลาแล้ว นับบรรทัด  ปกติเราจะเขียนหนังสือบรรทัดละประมาณ 10 – 15 คำ แล้วแต่ความสั้นยาวของคำ Task 1 จึงควรมีความยาว 15 – 17 บรรทัด และ Task 2 ควรยาว 25 – 28 บรรทัด

เมื่อสอบจบส่วน Listening , Reading  และ Writing ก็เป็นเวลาพักเที่ยง ส่วนการสอบ  Speaking ขึ้นกับเวลาที่นัดกับศูนย์สอบ โดยผู้จัดสอบจะจัดตารางเวลามาให้เรียบร้อย ว่าใครอยู่ที่ลำดับเท่าไหร่ และสอบประมาณกี่โมง 

ข้อสอบ IELTS Speaking
มี 3 ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนที่ง่ายสุด Examiner จะคุยกับเราแบบสบายๆ  เช่นถามว่าไปกินอะไรมา ชอบทำงานอดิเรกอะไร และจะมี key question ที่นำไปสู่การสอบส่วนที่สอง ตอนเราสอบ  ถามว่าชอบไปเที่ยวหรือไม่ ชอบภูเขา หรือทะเล เป็นต้น ส่วนนี้กินเวลาประมาณ 5 นาที
ส่วนที่ 2 ยากขึ้นหน่อย เป็นการ์ดคำถาม ซึ่งต่อเนื่องจากคำถามท้ายๆ ของส่วนแรก คือ ให้บรรยายการไปเที่ยวที่ประทับใจ ไปกับใคร เมื่อไหร่ ให้เวลาคิด 1 นาที และเวลาตอบประมาณ 2 นาที
ส่วนที่ 3 ยากสุด เป็นการถกกันระหว่าง Examiner กับ ผู้เข้าสอบ เช่น เรื่องปัญหาการรักษาพื้นที่สงวน ไม่ให้ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้าง เพราะมันจะไปทำลายธรรมชาติอะไรแบบนั้น ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

Tips สำหรับ Speaking
1. ฝึกพูดให้มากๆ โดยเฉพาะส่วนที่ 2 และ 3 ซึ่งมีคะแนนเยอะ เวลาฝึก ก็อัดเสียงไว้กลับมาเปิดฟังเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง
2. ทำใจให้สบาย อย่าเครียด เวลาพูดตอบ ไม่ต้องรีบร้อน พูดช้าๆ ชัดๆ ไม่ต้องไปสนใจเครื่องบันทึกเสียงบนโต๊ะ
3. สังเกตท่าทีของ Examiner ไว้ด้วย ถ้าดูเป็นคน Friendly ก็จัดเต็ม ตอบไปแบบร่าเริงๆ ได้ แต่ถ้าดูซีเรียส ก็ตอบด้วยน้ำเสียงเป็นทางการ

ที่มา: Hotcourses Thailand >> [ http://www.hotcourses.in.th/blog/study-guides/how-to-prepare-for-ielts/?campaign=176]
ผู้เขียน: คุณมุตตา จาก Blog mutta.bloggang.com >> [http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mutta]



Leave a Comment