[เส้นทางผู้บริหาร] เส้นทางก้าวสู่ผู้บริหารสถานศึกษา เส้นทางสอบรอง ผอ. เส้นทางสอบผู้อำนวยการโรงเรียน

เส้นทางหนึ่งของความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา คือ การก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งครูที่สนใจเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา  คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)  ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังนี้ [หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขและเพิ่มเติมในรายละเอียดทุกครั้งก่อนสอบคัดเลือกฯ ดังนั้น ต้องตรวจสอบในรายละเอียดในแต่ละครั้ง โดยการสอบครั้งต่อไป จะเริ่มช่วงต้นปี พ.ศ. 2558]

1. ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา  จะต้องเป็นข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษา  มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา  หรือทางอื่นที่  ก.ค.ศ. กำหนด  ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า  4  ปี(ผู้มีวุฒิปริญญาตรี)  หรือ  2 ปี  (ผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป)  และจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา

2. ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา  จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า  1  ปี  หรือดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา  ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา  ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน  หรือดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่มีประสบการณ์การบริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่มมาแล้วไม่น้อยกว่า  2  ปี  หรือดำรงตำแหน่งครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการ  หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่  ก.ค.ศ. เทียบเท่า  และจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา

สำหรับการดำเนินการสอบคัดเลือกนั้น  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)  เป็นผู้ดำเนินการสอบภาค  ก  และ  อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้ดำเนินการสอบภาค  ข  และภาค ค  (ตามกฎหมาย แต่ครั้งล่าสุด สพฐ. เป็นผู้จัดสอบ ภาค ก. และ ข. พร้อมกัน โดยไม่มีการสอบ ภาค ค.) สำหรับหลักสูตรในการสอบ “อาจ” มีรายละเอียดโดยย่อ ดังนี้

1. ภาค  ก : การทดสอบสมรรถนะและความรู้ความสามารถทางการบริหาร (คะแนนเต็ม  200  คะแนน)  ประกอบด้วย
     1.1 การประเมินสมรรถนะทางการบริหาร  100  คะแนน
     1.2 ความรู้ความสามารถในการบริหารงานในหน้าที่  100  คะแนน

2. ภาค  ข : ความรู้ทั่วไปและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน  (200  คะแนน)  ประกอบด้วย
     2.1 ความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน  100  คะแนน
     2.2 ความรอบรู้ทั่วไป  100  คะแนน

3. ภาค  ค : การประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง  (100  คะแนน)  ประกอบด้วย
     3.1 การประเมินผลการปฏิบัติงาน  50  คะแนน
     3.2 การสัมภาษณ์  50  คะแนน

ผู้ที่สนใจจะเปลี่ยนสายงานมาเป็นผู้บริหาร จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาก่อน จึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบคัดเลือก และการจะยื่นขอใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารได้ จะต้องมีวุฒิการศึกษาทางการบริหารการศึกษา  ดังนั้น ท่านที่สนใจจะเดินสายผู้บริหารสถานศึกษา ต้องไปเรียนให้ได้วุฒิ ป.โท บริหารการศึกษาก่อน จากนั้นจึงยื่นขอใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา จึงจะมีคุณสมบัติในการสมัครสอบ ผู้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม จากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ค.ศ. [http://www.otepc.go.th/]

administrator
ผู้เขียนเอง เมื่อมีคุณสมบัติ ก็ได้สมัครสอบและผ่านการสอบคัดเลือก โดยสอบได้ลำดับที่ 29 กลุ่มทั่วไป ตามหนังสือที่ ศธ 04009/ว2277 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2555  ผ่านการอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา รุ่นที่ 3 (สามสำราญ งานสำเร็จ) ณ หน่วยพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 5-25 มิถุนายน 2555 เลือกโรงเรียนบรรจุและแต่งตั้งที่โรงเรียนกระเทียมวิทยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แต่ที่สุดได้สละสิทธิ์การเข้าสู่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 ได้สละสิทธิ์การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนทรายทองวิทยา อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยเหตุผลเดียวกัน

ทั้งนี้ ผอ.สุริยา ทองบุญมา รุ่นพี่ สควค. ท่านหนึ่ง ที่เป็นผู้บริหาร เคยกล่าวไว้ว่า  “ช่วงที่เราเป็นครู เราสามารถพัฒนาและส่งเสริมผู้เรียนได้เฉพาะนักเรียนที่เราสอนและพัฒนาครูเฉพาะกลุ่มสาระที่เราสังกัด แต่เมื่อเราเป็นผู้บริหารโรงเรียน เราสามารถพัฒนาและส่งเสริมผู้เรียนและครูได้ทั้งโรงเรียน ได้ทำงานกับชุมชน ให้เขามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และแม้ว่าการเป็นผู้บริหารจะมีอุปสรรคและปัญหาหลายๆเรื่อง เพราะต้องทำงานกับหลายคน หลายฝ่ายและหลายหน่วยงาน แต่ลึกๆ แล้ว พี่เชื่อว่า ถ้าครู ที่มีใจรักและมีความสามารถด้านนี้ จะสามารถเป็นผู้บริหารที่ดีได้ แต่ก็ต้องคิดให้ดีก่อนเพราะเราอาจจะเสียครูวิทยาศาสตร์ที่ดีไปหนึ่งคน” (ที่มา : วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)

หมายเหตุ : สำหรับการสอบผู้บริหารสถานศึกษาที่จะมีขึ้นครั้งถัดไป จะอยู่ในช่วงราวกลางปี พ.ศ. 2558  เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ



2 Comments

  1. กวีรักษ์ ประวรรรรัมย์ says:

    มันก็น่าคิดนะครับ กับประโยคนี้ อาจารย์ผมก็เคยสอนไว้ว่าต้องคิดดีๆเพราะคำว่า “เสียครูดีๆไปหนึ่งคน แต่กลับได้ผู้บริหารที่แย่ๆเพิ่มอีกคน” ในฝ่ายปกครองเขาก็มีคำว่า “เสียปลัดดีๆเก่งๆไปหนึ่งคน แต่กลับได้นายอำเภอแย่ๆมาเพิ่มอีกคน” อันนี้ต้องช่างใจให้ดี ความสามารถถึงหรือยัง ไม่ยังงั้นพอขึ้นสู่ที่สูงอาจเก่งไม่พอ….เห็นด้วยครับผม

    • admin says:

      ขอบคุณมากครับ ที่ร่วมนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจ และฝากให้คนที่กำลังจะตัดสินใจ “เปลี่ยนสายงาน” ได้ตรึกตรองให้แน่ชัด

Leave a Comment