จากการร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ได้รับหนังสือแจ้งความคืบหน้าจากสำนักงานรัฐมนตรีว่า ได้นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการทราบแล้ว มีบัญชามอบหมายสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รับไปพิจารณา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2558 และในส่วนของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ก.ค.ศ. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาและดำเนินการเรื่องดังกล่าว จึงได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ.พิจารณาและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เรื่องนี้จึงขอให้เพื่อนผู้บริหารและผู้ได้รับผลกระทบติดตามการทำงานของ ก.ค.ศ. อย่างใกล้ชิด เพราะเรื่องนี้เคยร้องเรียนกันมาหลายรอบและเงียบหายทุกที ทั้งที่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 แยกเขตพื้นที่การศึกษาเป็นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อให้การบริหารและการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ เกิดความคล่องตัวในพัฒนาการศึกษา แต่หลักเกณฑ์การย้ายของ ก.ค.ศ. ยังไม่ได้แก้ไข และเป็นหลักเกณฑ์ข้อเดียวที่สร้างปัญหาให้กับชาวมัธยมมาเป็นเวลา 5 ปี ครั้งนี้มีความคาดหวังกับ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการท่านใหม่ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. และรัฐบาล ค.ส.ช. ที่เข้ามาปฏิรูปประเทศได้คืนความเป็นธรรมให้กับชาวมัธยมศึกษา การย้ายจากประถมมามัธยมจากหลายเขตพื้นที่มีการต่อรอง เรียกรับผลประโยชน์ ถ้าแก้หลักเกณฑ์ข้อนี้ได้จะลดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นใน กระทรวงศึกษาธิการไปได้มาก
หนังสือตอบรับจาก กมธ.การศึกษาและการกีฬา
หนังสือตอบรับจาก สำนักงานรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง 2 : >> [เหตุผลที่ควรแก้ไขหลักเกณฑ์การย้ายข้ามระดับการศึกษา]
เว็บไซต์ ANANTASOOK.COM ร่วมเผยแพร่ข่าวความคืบหน้าในครั้งนี้ครับ