Anantasook.Com

เที่ยวฟิลิปปินส์ เที่ยวมะนิลา เที่ยวชมป้อมซานติเอโก (Fort Santiago) ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ (Shrine of Freedom) ของฟิลิปปินส์

ประวัติและความเป็นมาของป้อมซานติเอโก (Fort Santiago)

ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1571 นับเป็นป้อมปราการของสเปนที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปินส์ (เก่าแก่ที่สุดของมะนิลา) ป้อมนี้เป็นด่านแรกที่ป้องกันการโจมตีจากข้าศึกที่เข้ามาทางปากอ่าวมะนิลา ป้อมแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีหลายครั้ง ต่อมาได้บูรณะซ่อมแซมเพื่อให้เป็น “ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ” (Shrine of Freedom) บริเวณรอบป้อมมีสวนหย่อมรายล้อม สวยงาม

ความโดดเด่นที่สะดุดตาบนซุ้มประตู Fort Santiago ก็คือรูปสลัก “เซนต์เจมส์ผู้พิฆาตแขกมัวร์” (Saint James the Moor-slayer) เซนต์เจมส์ท่านนี้เป็นนักบุญในคริสต์ศาสนาที่ชาวสเปนนับถือกันมาก ตำนานกล่าวว่าท่านเคยปรากฏกายในสงครามระหว่างชาวคริสต์กับพวกแขกมัวร์ ที่เคยยึดครองดินแดนสเปนมาก่อน โดยที่เซนต์เจมส์ขี่ม้าขาวลงมาจากสวรรค์แล้วใช้ดาบปราบกองทัพแขกมัวร์จนแตก พ่ายไปหมด ชาวคริสต์ในสเปนจึงยกย่องท่านเป็นนักบุญผู้ปกปักรักษาประเทศสเปนมาจนถึงทุกวันนี้

ป้อมแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยงามดึงดูดสายตามากที่สุดจากยุคอาณานิคมของสเปน ป้อมปราการขนาดใหญ่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษมานานนับปีและยังเป็นที่กักขังวีรบุรุษแห่งชาติอย่าง โฮเซ รีซัล (Jose Rizal) และยังเป็นที่กักขังนักโทษพลเรือน ในช่วงการทำสงคราม ระหว่างการยึดครองของญี่ปุ่น โดยคุก Dungeon แต่เดิมเคยใช้เป็นที่เก็บอาวุธ ต่อมาใช้เป็นสถานที่สังหารนักโทษคราวละหลายร้อยคน ตัวห้องขังตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำปาซิก นักโทษจะต้องเดินลงไปยังห้องขังด้านล่าง ทหารจะปล่อยน้ำจากแม่น้ำเข้ามา และนักโทษก็จะจมน้ำตายในที่สุด

เมื่อสมัยที่โปรตุเกสยังยึดครองเมืองมะละกา ป้อมปราการแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นเสมือนด่านป้องกันเมืองมะละกา จากการบุกรุกของศัตรู โดยปกติป้อมนี้จะมีกำแพงยาวล้อมรอบเนินเขาเล็กๆ ชื่อว่าเนินเขามะละกา ซึ่งป้อมปราการแห่งนี้ ก็ได้ทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดีมาเป็นเวลานานกว่า 150 ปี จนกระทั่ง ฮอลันดา ได้ยกทัพมาบุกรุกและสามารถยึดครองเมืองมะละกา ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2184 หลังจากที่ได้ทำการล้อมเมืองนี้อยู่นานถึง 5 เดือน และหลังจากที่ได้ทำการยึดเมืองมะละกามาจากชาวโปรตุเกสได้เรียบร้อยแล้ว พวกฮอลันดาก็ได้ทำการซ่อมแซมกำแพงและ ป้อมปราการแห่งนี้ให้กลับอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

จนกระทั่งในภายหลังเมืองมะละกาได้ถูกครอบครองโดยอังกฤษ ผู้ปกครองเกาะปีนังได้ส่งกัปตันวิลเลียม ฟาร์คูฮาร์ มาทำลายป้อมปราการแห่งนี้ เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์ครอบครองดินแดนของฮอลันดาแต่เมื่อท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ เดินทางมาจากสิงคโปร์มาเห็นเหตุการณ์ในขณะที่กำลังมีการทำลายกำแพงและป้อมปราการ จึงได้ขอยับยั้งการทุบซากของประตูแห่งนี้ไว้ เพราะว่าท่านได้มองเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประตูแห่งนี้ และ ก็เป็นไปอย่างที่ท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ได้คาดการณ์ไว้จริง ๆ เพราะว่าซากประตูแห่งประวัตินี้ ได้ดึงดูดผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลก ให้มาเยือนเมืองมะนิลาและสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับเมืองนี้ ตราบจนทุกวันนี้

และด้วยความที่ซากประตูแห่งนี้ไม่มีกำแพงอยู่ด้านข้างเลย เพราะว่าโดนทุบ ทิ้งไปจนหมดแล้ว (ต่อมามีการบูรณะขึ้นทดแทน) ผู้คนจึงได้ขนานนามประตูแห่งนี้ว่า “ประตูไร้กำแพง” ประตูแห่งนี้มีขนาดความสูง 7 แมตร หนา 2.5 เมตร สร้างจากหินศิลาแลงฉาบปูน และ บริเวณด้านหน้ามีปืนใหญ่ตั้งอยู่รายรอบ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปเก็บภาพเมื่อได้ มีโอกาสไปเยือนเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

ชมคลิป นำชมป้อมซานติเอโก Fort Santiago

ชมคลิป นำชมป้อมซานติเอโก Fort Santiago บริเวณปากแม่น้ำปาซิก

Exit mobile version